เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการวิจัยผลลัพธ์จากการทานอาหารเสริมในมนุษย์ โดยพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โฮปฟูล จำกัด กับ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำโครงการวิจัยผลการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพร Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) ต่อการเปลี่ยนแปลงสุขภาพในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อกลุ่มอาการเมตาบอลิก (ผู้ที่มีร่างกายเผาผลาญอาหารผิดปกติ)
โดยมีพิธีลงนามเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดยคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) พร้อมด้วย รศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล , อ.ดร.จันทร์จิรา โพธิ์สัตย์ และ อ.ดร.จิรายุ หลายนามเพ็ชร อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยตรวจวิจัยคุณภาพอาหารและโภชนาการ (ARFaN) ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อีกทั้งยังมีบริษัทพาร์ทเนอร์ในเครือบริษัท โฮปฟูล จำกัด เข้าร่วมงานและเป็นสักขีพยานในพิธีครั้งนี้
รศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์ (คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล) ได้กล่าวที่มาของโครงการนี้ช่วงหนึ่งว่า “รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสในการขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มมิติในการเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น” และได้กล่าวต่อถึงความสำคัญของโครงการบางช่วงสรุปใจความสำคัญได้ว่า “สาธารณสุขควรเข้าถึงในทุกมิติ ก่อนหน้านี้การร่วมงานกับภาคเอกชนเป็นไปได้ยาก แต่ปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งเป็นการดี เพราะมิติของโภชนาการและอาหารนั้นสำคัญ ไม่เพียงแค่การผลิตงานวิจัย นวัตกรรมเพื่อสุขภาพขึ้นมา แต่สิ่งที่คิดและวิจัยขึ้นมาต้องสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จริงด้วย การมีเอกชนเข้ามาร่วมจึงเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องนี้”
ต่อมาคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) ได้กล่าวถึงที่มาของความร่วมมือครั้งนี้ว่า “จุดประสงค์หลักในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้ คือการเสริมสร้างความตระหนักรู้ของประชาชนชาวไทยเกี่ยวกับความสำคัญของโภชนาการอาหารมากยิ่งขึ้น หากงานวิจัยในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะเป็นเครื่องยืนยันพิสูจน์ได้ว่าการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยบรรเทาอาการป่วยที่เป็นอยู่ได้ โฮปฟูลจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับและมีโอกาสทำวิจัยร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ถือว่าเป็นมหาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ”
คุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ได้กล่าวกับพาร์ทเนอร์ว่า ผลวิจัยอาหารเสริมสมุนไพร Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) จะได้ใช้เวลาประมาณ 10 เดือน ซึ่งบริษัท โฮปฟูล จำกัด (Hopeful) คาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในระดับชาติ บริษัท โฮปฟูล จำกัดและมหาวิทยาลัยมหิดลต่างหวังว่าผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) จะสามารถช่วยผู้ป่วยเบาหวานและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ บริษัท โฮปฟูล จำกัด นำโดยคุณหยก อรรคพล หยกยิ่งยง ได้นำผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) และ Beta Herb Tea (ชา เบต้าเฮิร์บที) พร้อมผลวิจัยของมะระขี้นก เข้าร่วมงานประชุมเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้าน ครั้งที่ 11 ณ โรงแรมรอยัลนาคาราและคอนเวนชั่นฮอลล์หนองคาย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน (อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก) เป็นประธาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ Beta Herb (เบต้าเฮิร์บ) และผลวิจัยของมะระขี้นกได้รับความสนใจจากประชาชนผู้เข้าร่วมงานและแขกผู้ใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศอย่างมาก
TAGS Businesscaseโฮปฟูล