การขนส่งสินค้าจากจีนถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างธุรกิจให้เติบโตและทำกำไรได้อย่างดี ยิ่งในยุคที่ต้องแข่งขันทั้งด้านราคาและคุณภาพ สินค้าจากจีนก็ถือว่าตอบโจทย์ทั้ง 2 อย่างเลย แต่มีใครสงสัยหรือไม่ว่าแล้วการขนส่งสินค้าเหล่านี้มายังประเทศไทย มันควรใช้แบบไหน หรือระหว่างทางรถและทางรถ การขนส่งทางไหนจะดีกว่ากัน
หากต้องการขนส่งสินค้าจากจีนต้องทำอย่างไรบ้าง
หลายคนคงรู้แล้วว่าการชิปปิ้งจีนคือการนำเข้าสินค้ามาในไทย ไม่ว่าจะอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าอื่น ๆ ก็สามารถขนส่งผ่านบริษัทชิปปิ้งมาได้ แต่รู้หรือยังว่าหากต้องการใช้บริการขนส่งนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง บอกเลยว่าไม่ยากเพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น
1. หาบริษัทชิปปิ้งที่น่าเชื่อถือ
วิธีนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายต้องเริ่มจากการค้นหาบริษัทชิปปิ้งจีนที่มีประสบการณ์ พร้อมให้บริการด้านโลจิสติกส์และสามารถสื่อสารกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนได้ นอกจากนี้ยังต้องมีความน่าเชื่อถือด้วยใบอนุญาตและการจดทะเบียนที่ถูกต้อง พร้อมรักษาความลับและปฏิบัติตามกฎหมายไทยในการนำเข้าสินค้า เพื่อให้ได้ขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด
2. เตรียมดูสินค้าและเอกสารให้พร้อม
หลังจากได้บริษัทชิปปิ้งที่ไว้ใจได้ น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์การทำธุรกิจก็ต้องเตรียมลิสต์รายการสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องการนำเข้ามาในไทย เอาไว้คำนวณความคุ้มทุนและนำไปวางแผนการทำงานต่อได้ รวมถึงต้องรวบรวมเอกสารจำเป็นที่ใช้สำหรับขนส่งนำเข้าสินค้า โดยต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเอกสารทุกฉบับถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้มั่นใจได้เลยว่าจะราบรื่นแน่นอน
3. เลือกวิธีการขนส่งจากจีน
ขั้นสุดท้ายที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกวิธีขนส่งจากจีนมายังไทย โดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการที่ได้รับความนิยมจะมี 2 ทางคือขนส่งทางรถจากจีนและขนส่งทางเรือ ซึ่งการขนส่งทั้ง 2 ทางนี้จะมีข้อได้เปรียบและเงื่อนไขที่ต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สินค้าเดินทางมาถึงไทยได้อย่างปลอดภัย พร้อมให้นำไปขายต่อ สร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้
ขนส่งจากจีนทางรถ
การชิปปิ้งจีนโดยขนส่งทางรถจากจีนถือเป็นทางเลือกที่เจ้าของธุรกิจหลาย ๆ คนเลือกใช้ เพราะถือว่าเป็นวิธีที่รวดเร็วใช้ระยะเพียง 5 – 7 วันเท่านั้น เหมาะสำหรับสินค้าที่แข่งกับเวลา เพราะสามารถเดินทางไปถึงที่ปลายได้โดยไม่นาน รวมไปถึงธุรกิจไหนที่ต้องใช้สินค้าขนาดเล็กหรือพื้นที่ไม่มาก วิธีนี้ก็ถือว่าเหมาะเลย
ขนส่งจากจีนทางเรือ
การขนส่งจากจีนทางเรือก็เป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะว่าราคาขนส่งจะค่อนข้างถูกกว่ามาก ยิ่งเป็นสินค้าขนาดใหญ่หรือจำนวนมาก ๆ ก็แนะนำให้ใช้วิธีนี้ นอกจากนี้ธุรกิจไหนที่ไม่ต้องรีบใช้สินค้าก็แนะนำเรือเช่นกัน ถึงแม้จะใช้เวลาเดินทางนานหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากเลยทีเดียว
ขนส่งจากจีนแบบไหนดีกว่ากัน?
หากพิจารณาความเหมือนความต่างของการขนส่งทั้ง 2 รูปแบบแล้ว ก็สามารถเปรียบเทียบกันได้หลายประเด็น ดังนี้
1. ระยะเวลาการเดินทาง
แน่นอนว่าเรื่องระยะเวลาการขนส่งจากจีนทางรถถือว่าได้เปรียบกว่ามาก ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาเพียงแค่ 5 – 7 วันหรือประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่ขนส่งทางเรือใช้เวลาประมาณ 12 – 20 วันเลยทีเดียว
2. ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้
ถ้าพูดถึงเรื่องราคาแล้วก็ต้องยกให้การขนส่งจีนทางเรือแทน เพราะด้วยความจุต่อรอบของเรือมากกว่ารถหลายเท่า เวลาคิดค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวการขนส่ง เมื่อคำนวณและเฉลี่ยกับปริมาณสินค้าแล้วก็คุ้มค่ากว่าการขนส่งจากรถหลายเท่า
3. ปริมาณการขนส่งต่อรอบ
หากมองที่จำนวนหรือปริมาณสินค้าที่สามารถจุมาได้ในการขนส่งหนึ่งรอบ ทางด้านของเรือก็ได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว สามารถบรรทุกคอนเทนเนอร์ได้หลายตู้ ต่างจากรถที่สามารถบรรทุกได้เพียงไม่กี่ตู้เท่านั้น
สุดท้ายอาจไม่มีใครตอบได้ว่าขนส่งจีนทางเรือหรือทางรถดีกว่า เพราะแต่ละทางก็มีข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจด้วย ว่าบริการแบบไหนจะตอบโจทย์ความต้องการที่สุด แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งแรกที่จำเป็นต้องคำนึงถึงก็คือการเลือกบริษัทขนส่งสินค้าจากจีนที่ไว้ใจได้และน่าเชื่อถือ สามารถช่วยจัดการงานและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดี ตลอดจนจัดการเรื่องโลจิสติกส์ และนำสินค้าเข้าไทยให้ถึงมือได้อย่างราบรื่นไร้กังวล
TAGS Businesscase