ทางเลือกแหล่งเงินออนไลน์รูปแบบใหม่ที่จะช่วยสร้างโอกาสทางการเงิน หากขอกู้จากสถาบันการเงินไม่ผ่าน หรือแม้แต่ติดเครดิตบูโร เพียงมีโฉนดที่ดินถูกต้องที่ผ่านการประเมินโดยบริษัทประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ก็มีโอกาสขายฝากสินทรัพย์เพื่อรับเงินก้อนไปต่อทุนธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องกังวลกับดอกเบี้ยอัตราสูง นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยให้คนหรือ SMEs ที่ต้องการเงินหมุนเวียนไปเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ สามารถหลุดจากวงจรหนี้นอกระบบได้
ดร.ปริสุทธิ์ รัตนมหาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ทฟินน์ โซลูชั่นส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดในการทำธุรกิจสตาร์ทอัป ในรูปแบบแพลตฟอร์มบริการทางการเงินออนไลน์ชื่อ สมาร์ทฟินน์ (SMARTFINN) ที่มีมาตรฐานและเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association) ทำหน้าที่เป็น Matching platform ตัวกลางจับคู่ผู้ที่ต้องการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน เเละคอนโด กับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคงพร้อมความปลอดภัยทางการเงินอีกช่องทางหนึ่ง
- รูปแบบการให้บริการของสมาร์ทฟินน์ (SMARTFINN)
สมาร์ทฟินน์ (SMARTFINN) เชื่อมต่อระหว่างผู้ที่ต้องการใช้เงิน ให้มาพบกับนักลงทุนใจดี โดยบริษัทจะเป็นตัวกลางในการรับข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย เพียงผู้กู้ต้องมีโฉนดสินทรัพย์ซึ่งเป็นผู้ครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย (น.ส.4) ลงทะเบียนขายฝากบนเว็บไซต์ smartfinn.co.th เพื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานลงดูพื้นที่กับบริษัทประเมิน ที่แม้เจ้าของทรัพย์จะเคยยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารไม่ผ่าน ด้วยอาจติดเงื่อนไข เช่น ติดเครดิตบูโรหรือติดแบล็คลิสต์บูโร แต่สามารถขายฝากกับสมาร์ทฟินน์ได้ เพราะสมาร์ทฟินน์ไม่เช็กเครดิตบูโร ไม่เช็กประวัติการเดินบัญชี และไม่มีนโยบายยึดทรัพย์ ทำให้ไม่ต้องหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ ซ้ำยังคิดดอกเบี้ยเพียง 0.75% ต่อเดือน
ในส่วนของนักลงทุน ที่สนใจการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนในอัตรา 9-12% ต่อปี โดยไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินการซื้อขายด้วยตัวเอง เพียงลงทะเบียนและกรอกข้อมูล KYC (Know Your Customer) เพื่อยืนยันตัวตนและกำหนดวงเงินในการลงทุน ก็สามารถที่จะซื้อหลักทรัพย์ที่เปิดประมูลในแพลตฟอร์มได้
การรับซื้อฝากจึงตอบโจทย์สำหรับนักลงทุน เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และการขายฝากยังมีกฎหมายคุ้มครองทั้งผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก (นักลงทุน) อุ่นใจได้ด้วยมีโฉนดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และกรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันทีที่มีการทำสัญญาต่อหน้าเจ้าพนักงาน ณ สำนักงานที่ดิน
- ที่มาของการก่อตั้งสมาร์ทฟินน์ (Smartfinn)
แนวคิดของการก่อตั้งสมาร์ทฟินน์ (SMARTFINN) เริ่มขึ้นจากการที่คุณอ้อย-ดร.ปริสุทธิ์ เล็งเห็นถึงปัญหาหนี้นอกระบบที่เกิดขึ้นมากในสังคมไทยโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ดังนั้นการเพิ่มทางออกทางการเงินให้กับคนไทย ด้วยระบบขายฝากที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้
“เราจะเห็นว่านายทุนนอกระบบที่มหาโหด เก็บดอกเบี้ยสูงมากๆ เพื่อสุดท้ายแล้วจะได้ยึดทรัพย์ที่ดินจากคนที่เอาโฉนดมาค้ำประกัน ทำให้เจ้าของทรัพย์กลายเป็นโดนยึดทรัพย์ของตนเอง ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงเป็นความตั้งใจของเราที่จะใช้เรื่องขายฝากเข้ามาช่วยเหลือในจุดนี้ ซึ่งยังเป็นช่องว่างอยู่นอกเหนือจากเรื่องของการจํานอง ที่มีสถาบันการเงินหรือธนาคารช่วยรองรับเรื่องนี้อยู่แล้ว”
- สิ่งที่ทำให้สมาร์ทฟินน์แตกต่างจากบริการขายฝากอื่นในตลาด
จนถึงวันนี้ สมาร์ทฟินน์ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 8 มีมูลค่าทรัพย์สินขายฝากไปแล้วรวมกว่า 8 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมีวงเงินนักลงทุนที่ลงทะเบียนแล้วรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท และมีการจดทะเบียนทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คิดค่าเงินปากถุง หรือค่าธรรมเนียมขายฝากที่ดินในอัตราเพียง 3.99 โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนให้แก่ผู้ขายฝาก สําหรับนักลงทุนไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และยังใช้บริษัท PWC ซึ่งเป็นบริษัทสอบบัญชีชั้นนำในการตรวจสอบบัญชีของบริษัท เพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกรรมทั้งหมด
“2 ปีแรกคนยังไม่เข้าใจคําว่าขายฝากเลย เราชูหลักในเรื่องขายฝากและทําความเข้าใจให้ทุกคนรู้ว่าขายฝากคืออะไร โดยการขายฝากควบคุมด้วยเงื่อนของเวลา เจ้าของทรัพย์สามารถไถ่ถอนได้ภายในกําหนดระยะเวลาที่ตกลงกัน โดยความตั้งใจของสมาร์ทฟินน์คือทําให้ลูกค้าทั้ง 2 ข้าง win-win ทั้งคู่ ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และวันนี้ที่เราเดินทางมาได้ถึงขนาดนี้ เพราะว่าความตรงไปตรงมาและชัดเจน ตรวจสอบได้ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อใจและไว้ใจจากนักลงทุน”
สิ่งที่ทำให้สมาร์ทฟินน์แตกต่าง คือการทําธุรกรรมทุกครั้งถูกต้องตามกฎหมายโดยผ่านขั้นตอนครบถ้วนจากสํานักงานกรมที่ดินในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ เน้นการให้บริการที่รวดเร็ว เมื่อทำสัญญาฯ จะมีการเปลี่ยนชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อของนักลงทุน ทำให้ลงทุนเกิดความมั่นใจ และวงเงินการให้กู้อยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 50% ของมูลค่าทรัพย์จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ พร้อมผลตอบแทนคือดอกเบี้ยที่ชัดเจนอยู่ที่ 9-12%
“ซึ่งเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลลูกค้าว่าเขาควรต้องเดินบัญชีอย่างไร แล้วก็นำไปใช้ในเรื่องที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจ ให้สามารถวางแผนการเงินใหม่ สามารถเดินบัญชีอย่างดีแล้ว หลังจากไถ่ถอนสินทรัพย์ขายฝากได้เรียบร้อยแล้ว เขากลับไปสู่สถาบันการเงิน เพราะเราเชื่อมั่นเหลือเกินว่าสถาบันการเงินคือสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับผู้กู้”
โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า บ้านจัดสรร บ้านทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และโรงแรมรีสอร์ต ที่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการหยุดชะงัก หลายคนเจอปัญหาหนัก แต่วันนี้สามารถไถ่ถอนได้เรียบร้อยแล้ว ทำลูกค้าได้มีชีวิตใหม่ ธุรกิจเดินหน้าต่อได้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทางสมาร์ทฟินน์ตั้งใจที่จะช่วย SMEs
- เป้าหมายในอนาคตของสมาร์ทฟินน์
เมื่อถามถึงการเติบโตของสมาร์ทฟินน์ในแต่ละปี พบว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ และในการก้าวสู่ปีที่ 8 สมาร์ทฟินน์ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินขายฝากที่ 5 พันล้านบาท พร้อมวางแผนขยายขอบเขตของพื้นที่เพื่อสามารถรองรับผู้ต้องการขายฝากได้มากขึ้นต่อไป
“ในวันนี้เราให้บริการไปแล้วเกือบ 40 จังหวัด ส่วนปีนี้ชัดเจนว่าพยายามมากๆ ที่จะช่วยให้ได้ทั่วประเทศไทย อย่างน้อยให้ได้ถึง 50 กว่าจังหวัด โดยพยายามที่จะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมต่างจังหวัดมากขึ้น ด้วยการเข้าถึงแหล่งการเงินยังค่อนข้างน้อย และมักโดนเอาเปรียบในเรื่องของการกู้นอกระบบค่อนข้างเยอะมาก เราก็ขอเป็นส่วนหนึ่งแม้เป็นจุดเล็กๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือคุณลูกค้าเหล่านั้นได้”
- สิ่งที่อยากเห็นที่สุดในวงการขายฝาก
“สองปีแรกอาจจะเป็นความท้าทายที่เราผ่านมาแล้ว ถ้าการแข่งขันยิ่งมากขึ้นจะเป็นผลดีกับผู้กู้ แล้วเราก็ถือว่าเราก็มีโอกาสได้ช่วย SMEs มากขึ้น เราเชื่อแค่เรื่องนี้ว่าถ้าลูกค้ามาพบเราแล้วเราได้ช่วยถือว่าโชคดี เพราะเราตรงไปตรงมาและตรวจสอบได้ เราพร้อมที่จะนําพาคุณกลับไปสู่สถาบันการเงิน ถ้าคุณจะต้องเป็นหนี้ระยะยาวที่จําเป็นกับธุรกิจ เราพร้อมช่วยคุณในทุกๆ ด้าน เพราะความมุ่งมั่นหนึ่งของบริษัทก็คือเราจะ ‘เคียงข้าง สร้างโอกาสทางการเงิน’ ให้กับลูกค้าทั้งผู้กู้และนักลงทุน โดยตั้งใจที่จะทําให้บริษัทเติบโตมากขึ้นด้วย เพราะเราอยากเห็น SMEs ไทย เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
สมาร์ทฟินน์เป็นส่วนหนึ่งของ สมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) และจดทะเบียนการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล กับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อให้กิจกรรมที่เกิดขึ้นผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัล ได้รับการดูแลภายใต้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ช่องทางการติดต่อของบริษัท
Website : www.smartfinn.co.th
Facebook : www.facebook.com/Smartfinnsolutions
Youtube : www.youtube.com/@smartfinn
Tiktok : www.tiktok.com/@smartfinn_official
TAGS BusinesscaseSmartfinn