ทำความเข้าใจเสริมจมูกโอเพ่น การแก้ปัญหาใบหน้าที่ไม่จำเป็นต้องสวยตามเทรนด์

ทำความเข้าใจเสริมจมูกโอเพ่น การแก้ปัญหาใบหน้าที่ไม่จำเป็นต้องสวยตามเทรนด์

นับตั้งแต่ปี 2018-2025 ประเทศไทยมีอัตราการศัลยกรรมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ หรือ ISAPS (International Society of Aesthetic Plastic Surgery) ได้ทำผลสำรวจจำนวนผู้เข้ารับบริการศัลยกรรมความงามจากทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นติด 10 อันดับประเทศแรก ที่เข้ารับการศัลยกรรมสูงที่สุด ต่างจากในปี 2017 ที่ขณะนั้นไทยอยู่อันดับที่ 21 จากทั่วโลก

เมื่อมีความต้องการที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานนี้ แน่นอนว่าเทรนด์ความงามย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในปัจจุบันค่านิยมความงามของผู้หญิงไทย สนใจการเสริมจมูกมากที่สุด และทรงจมูกยังเลือกตามความนิยมในปีนั้นๆ หรือประเมินตามความชอบที่อิงจากใบหน้าดารา ไอดอล แทนการเลือกออกแบบทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้าของตนเอง

ลักษณะเด่นโดยทั่วไปของจมูกหญิงไทย จะค่อนข้างแบน ปลายจมูกสั้นและกลม จมูกงุ้ม จมูกมีฮัมพ์ เนื้อผิวบาง ฐานกว้าง สันจมูกหัวตาต่ำ ปีกจมูกกว้าง เมื่อมีโครงหน้าที่กรามชัด โหนกชัด หน้าผากแคบ คางสั้น เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้านั้นขาดมิติ สัดส่วนบนใบหน้าไม่สมดุลกัน ซึ่งในทางความงามจะเรียกโครงหน้าที่สวยตามค่านิยมในมุมมองสากลว่า “สัดส่วนทองคำ (The Golden Ratio)” จากลักษณะจมูกที่กล่าวมา เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (CLOSED RHINOPLASTY) อาจได้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการในบางราย เช่น โครงสร้างจมูกไม่เปลี่ยนตามที่ต้องการ หรือสันจมูกไม่สามารถโด่งมากได้ ช่วงระยะหลังมานี้ผู้หญิงไทยจึงเริ่มทำความรู้จักกับเทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (OPEN RHINOPLASTY) ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนี้

ซึ่งเทรนด์ทรงจมูกในอดีต จะเน้นทรงที่โด่งพุ่ง เพื่อให้ใบหน้าดูคมชัด โดดเด่นออกมาอย่างชัดเจนและมีมิติ ขณะที่เทรนด์ทรงจมูกในปัจจุบันจะค่อนข้างแตกต่างออกไป โดยเน้นความโด่งอย่างเป็นธรรมชาติ เน้นการออกแบบให้เข้ากับใบหน้า ไม่เน้นโด่งพุ่งจนเห็นชัด เน้นความปลอดภัยกับโครงสร้างจมูกเดิม ไม่ฝืนเนื้อ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุ เบี้ยวเอียง หรือส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าแข็ง ดูแก่กว่าอายุจริง ไม่เป็นธรรมชาติ

เรื่องนี้ นพ.เจษฎา ลิ่มภัทรวงศ์ (ว.43450) ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด (Open Reconstruction) ได้อธิบายเทคนิคการเสริมจมูกโอเพ่นไว้ว่า การเสริมจมูกประเภทนี้คือการเปิดแผลผ่าตัด ทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งจะทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างจมูกภายในได้ทั้งหมด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและสร้างรูปทรงจมูกที่ต้องการขึ้นได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจมูกค่อนข้างมาก เช่น ผู้ที่มีจมูกสั้นและเหิน, สันจมูกคด เบี้ยว เอียง, สันจมูกมีฮัมพ์ขนาดใหญ่, ปลายจมูกงุ้ม, ปลายจมูกใหญ่, เนื้อจมูกน้อยมาก, ฐานจมูกกว้าง หรือในผู้ที่เคยผ่านการศัลยกรรมมาแล้วแต่เกิดปัญหา เช่น พังจากการฉีดสารแปลกปลอม หรือปลายจมูกบางจากการแก้จมูกมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้น การทำจมูกโอเพ่นไม่ใช่แค่ทำให้โด่งขึ้นเท่านั้น แต่คือการแก้ถึงโครงสร้าง

คุณหมอเจษ ได้กล่าวต่ออีกว่า หมอไม่ได้เน้นให้จมูกโด่งที่สุด แต่ต้องเข้ากับใบหน้า และอยู่ได้ในระยะยาวมากที่สุด โดยคุณหมอเจษ เลือกใช้เทคนิค Safe Structure นวัตกรรมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว ซึ่งเป็นเทคนิคเสริมจมูกเฉพาะของ Emma Clinic ที่ช่วยเซฟปลายและฐาน เช่น เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก ส่งผลให้จมูกดูเรียวสวย รูจมูกตั้งเป็นวงรี, เทคนิคตอกฐานจมูก ช่วยปรับให้จมูกเล็กลง สันจมูกชัด ดูคม, เทคนิคลดขนาดฮัมพ์ ตะไบฮัมพ์ โดยทำการตะไบปุ่มกระดูกฮัมพ์ลดความสูง ช่วยให้จมูกดูเรียวเล็ก เป็นทรงมากขึ้น และเทคนิคลดขนาดปลายจมูก ที่ทำการผ่าตัดเลาะไขมันปลายจมูก ส่งผลให้ปลายจมูกดูเรียวเล็กโดยไม่ต้องผ่าตัดปีกจมูก ซึ่งปัญหาจมูกเหล่านี้การเสริมจมูกเทคนิค Closed ไม่สามารถแก้ไขได้

Emma Clinic เป็นหนึ่งในคลินิกที่เน้นการทำศัลยกรรมเสริมจมูกโอเพ่น โดยทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น และมีมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งยังเป็นคลินิกที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์เฉพาะบุคคล ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของคุณหมอเจษที่ว่า “ความงามที่ดี เริ่มจากโครงสร้างที่แข็งแรง” จึงได้เลือกเป็นแพทย์ประจำเอมม่าคลินิก สาขาลาดพร้าว 101/3 ที่ใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมิน การวางแผนดีไซน์จมูกให้รับกับใบหน้า ไปจนถึงการดูแลหลังผ่าตัด ด้วยทีมเอมม่า คลินิก ยังได้รับความไว้วางใจมานานกว่า 8 ปี ปัจจุบันมีมากถึง 11 สาขาทั่วประเทศ 

นอกจากคุณหมอเจษจะเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญแล้ว ยังคงเน้นการแก้ไขภาพรวมของใบหน้าจากการเลือกทรงจมูกให้เข้ากับหลัก Golden Ratio ที่สร้างผลลัพธ์ให้ใบหน้ามีสัดส่วนสมดุลกันทั้งส่วนบนและล่าง ทำให้ผู้หญิงไทยมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ความสวยของทรงจมูกก็ยังคงเทรนด์อยู่เสมอ เพราะคุณหมอเจษเชื่อว่า “การศัลยกรรมที่ดีไม่ใช่ทำให้เหมือนใคร แต่คือการเข้าใจในโครงสร้างของเราเอง และความสวยต้องไม่แลกมากับความเสี่ยง”

 

TAGS

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *