
ไมโล แบรนด์เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ชั้นนำระดับโลก เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “กล่องนมรักษ์โลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 สะท้อนบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมความยั่งยืนในระดับเยาวชน โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ด้านการจัดการขยะ และส่งเสริมพฤติกรรมการรีไซเคิลกล่องนม UHT ภายในโรงเรียนให้เป็นกิจกรรมที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่มีโรงเรียนเข้าร่วมเพียง 67 แห่ง ปัจจุบันโครงการสามารถขยายผลครอบคลุมมากถึง 445 โรงเรียนทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงนักเรียนมากกว่า 227,000 คนทั่วประเทศ โดยในปีนี้เพียงปีเดียว โครงการสามารถรวบรวมกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วได้มากกว่า 89 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 240,000 กิโลกรัม หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้เกือบ 20,000 ต้น
ไม่เพียงแค่ยกระดับแนวคิด “รีไซเคิล” ให้จับต้องได้ แต่โครงการยังต่อยอดด้วยการสร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่โรงเรียน โดยการจับมือกับพันธมิตรอย่างบริษัท เวสท์บาย เดลิเวอรี่ จำกัด เข้ามารับซื้อกล่องนมโดยตรง เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
หนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ของปีนี้คือ “สุดยอดแชมป์พับกล่องนมรักษ์โลก (Careton Speedy Fold Challenge)” ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านการพับกล่องนมอย่างถูกวิธีเพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยโรงเรียนที่มีผลงานโดดเด่นจะได้รับทุนการศึกษาและรางวัลสุดพิเศษ ได้แก่ โต๊ะปิงปองอัพไซเคิลจากกล่องนม UHT เพื่อเป็นตัวอย่างรูปธรรมให้เยาวชนได้เห็นว่าขยะในโรงเรียนสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นของใช้ที่มีคุณค่าได้จริง
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชื่นชมโครงการนี้ว่าเป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องการคัดแยกขยะตั้งแต่ในห้องเรียนซึ่งจะปลูกฝังจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์และส่งต่อสู่อนาคต
ด้านนางสาวนาริฐา วิบูลยเสข ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ไมโลเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก การพับกล่องนมก่อนทิ้งจึงเป็นพฤติกรรมง่าย ๆ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงระยะยาวได้จริง” พร้อมย้ำว่าเป้าหมายของโครงการนี้ไม่ใช่แค่ลดขยะ แต่คือการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนลุกขึ้นมามีบทบาทในการรักษาโลกในแบบที่สนุกและยั่งยืน
ไมโลยังคงเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่าง เต็ดตรา แพ้ค, สถาบันอีโค่ เฟรนด์ลี่ ไทย และองค์กรภาครัฐอื่น ๆ อย่างแน่นแฟ้น เพื่อผลักดันโครงการกล่องนมรักษ์โลกให้ก้าวไปอีกขั้นในปีที่ 5 และสร้างแบบจำลองที่สามารถขยายผลสู่ภูมิภาคอื่นได้ในอนาคต
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ไมโลเลือกที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านมือของเด็กไทยทุกคน เพราะเชื่อว่าทุกการพับกล่องนมคือจุดเริ่มต้นของความยั่งยืนที่แท้จริง
TAGS Businesscaseกล่องนมรักษ์โลก