Mo-Mo Paradise ได้รับการเชิดชู ใช้ไข่ไก่ไร้กรง 100% ทุกสาขาทั่วประเทศ ยกมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

Mo-Mo Paradise ได้รับการเชิดชู ใช้ไข่ไก่ไร้กรง 100% ทุกสาขาทั่วประเทศ ยกมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ – Mo-Mo Paradise เชนร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท โนเบิล เรสเตอรองต์ จำกัด  ได้รับการเชิดชูในฐานะผู้นำที่ใช้ไข่จากระบบการเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free) 100% สำหรับการดำเนินงานในทุกสาขาทั่วประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ในภาคธุรกิจร้านอาหารของไทยและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

แนวทางการดำเนินธุรกิจตามนโยบายความยั่งยืนดังกล่าวครอบคลุมร้านอาหารทั้ง 31 สาขาในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยร้านแบบมาตรฐาน 29 แห่ง และร้านระดับพรีเมียม Gold อีก 2 แห่ง ที่ให้บริการลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวันด้วยเมนูชาบูชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ

Mo-Mo Paradise เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในปี 2536 และเติบโตสู่การเป็นเชนร้านอาหารระดับนานาชาติมากกว่า 70 สาขาทั่วโลก พร้อมทั้งเริ่มขับเคลื่อนแนวทางการจัดหาวัตถุดิบที่รับผิดชอบ และให้ความเคารพต่อสวัสดิภาพสัตว์และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

คุณตนุทัฬห เตลาน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mo-Mo Paradise ประเทศไทย กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นทุ่มเทเปลี่ยนผ่านไปใช้ไข่ไก่จากระบบเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free) 100% เป็นการสะท้อนแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ Mo-Mo Paradise ที่มุ่งเน้นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน เรายังคงมุ่งมั่นมอบประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นแท้ ทั้งชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมสร้างพื้นฐานที่เคารพในหลักจริยธรรมและสวัสดิภาพสัตว์”

“ตลอดช่วงระยะเวลาที่เราได้ดำเนินธุรกิจตามนโยบายความยั่งยืน เราได้ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างเครือข่ายจัดหาไข่ไก่แบบไม่ขังกรงที่เชื่อถือได้ พร้อมคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ลูกค้าคาดหวัง” คุณตนุทัฬห กล่าวทิ้งท้าย

ด้านคุณภูฬิฏา ศยาวรานน ผู้จัดการโครงการด้านความยั่งยืน มูลนิธิ Lever Foundation ระบุว่า “เราขอชื่นชม Mo-Mo Paradise ในฐานะผู้นำในธุรกิจร้านอาหาร ที่ได้เปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ไข่จากระบบการเลี้ยงแบบไม่ขังกรง จัดหาวัตถุดิบที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น ครอบคลุม 31 สาขาทั่วประเทศไทย ถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารรายอื่น แสดงให้เห็นว่า ร้านอาหารยอดนิยมสามารถยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าและสวัสดิภาพสัตว์ไปพร้อมกันได้”

ทั้งนี้ การผลิตไข่จากระบบเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free) 100%  ซึ่งแม่ไก่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระภายในพื้นที่ระบบเปิด นอกจากจะช่วยยกระดับสวัสดิภาพสัตว์แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหารเมื่อเปรียบเทียบกับระบบเลี้ยงแบบกรง

โดยข้อมูลจากหน่วยงานความปลอดภัยอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority) พบว่า ฟาร์มที่เลี้ยงไก่แบบไม่ขังกรงมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลลาน้อยกว่าระบบกรงสูงถึง 25 เท่า ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกประกาศยกเลิกการใช้ระบบกรงในการผลิตไข่ รวมถึงกลุ่มประเทศในยุโรป สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ ภูฏาน และบางพื้นที่ในอินเดีย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาผู้บริโภคจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลกยังเลือกหลีกเลี่ยงการบริโภคไข่จากระบบกรง โดยมองว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสนับสนุนสวัสดิภาพของแม่ไก่ที่ใช้ในการผลิตไข่

 

เกี่ยวกับ Lever Foundation

Lever Foundation เป็นองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ระดับโลก หรือ Non-Governmental Organization (NGO) ที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ โดยมุ่งเน้นการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในการปรับปรุงกระบวนการจัดหาโปรตีนเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความเป็นมนุษยธรรม ปลอดภัย และยั่งยืนยิ่งขึ้น พร้อมเน้นการพัฒนาการจัดหาโปรตีนจากสัตว์ที่ได้รับการดูแลอย่างดีและโปรตีนทางเลือกที่ผลิตขึ้นภายใต้มาตรฐานสากล

TAGS

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *